ล้างแอร์อุดรธานี

 นาราเซอร์วิส ล้างแอร์อุดรธานี

บริการติดตั้งแอร์ ย้ายแอร์ ซ่อมแอร์

เราเชี่ยวชาญในด้านการ บริการเกี่ยวกับงานแอร์ ไม่ว่าจะเป็นการ ล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์ และการย้าย-ถอนแอร์ เพราะเรามีประสบการณ์ด้านงานนี้มามากกว่า 5 ปี พร้อมมีทีมงานช่างที่ผ่านการอบรมหลักสูตรด้านอาชีพ 

ล้างแอร์อุดรธานี

บริการติดตั้งแอร์ ย้ายแอร์ ซ่อมแอร์

081-520-2530

บริการย้ายแอร์
บริการล้างแอร์
บริการซ่อมแอร์

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ล้างแอร์อุดรธานี

ทำไมจำเป็นต้องล้างแอร์

อาการบ่งบอกบอกแอร์จะไม่ไหวแล้ว

เลือกแอร์ให้เหมาะสมกับห้องของคุณ

หากไม่ล้างแอร์มีผลกระทบอะไรไหม

ไม่ล้างแอร์เกิดโรคได้จริงหรือ

วิธีใช้งานแอร์ให้ประหยัดไฟ

ดูเเลแอร์ด้วยตัวคุณเอง

ทริคสูตรคำนวณค่าไฟ

ผลงาน ล้างแอร์อุดรธานี

งานล้างแอร์ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญการ ด้วยงานล้างแอร์นั้นต้องใช้น้ำในการล้าง ซึ่งน้ำกับระบบไฟฟ้าเป็นอะไรที่ไม่ถูกกันอาจเกิดอุบัตติเหตุได้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง ต้องใช้ช่างที่มีความเข้าใจในด้านระบบล้างแอร์ เพื่อไม่ให้แอร์เกิดความเสียหายและไม่ให้เกิดอันตรายครับ ซึ่งนี่เป็นผลงานเเค่บางส่วน

ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

กับทีมงานนาราเซอร์วิส

ที่อยู่ : 505 หมู่14 บ้านหนองบุ ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 41000
เบอร์โทร : 081-520-2530
ไอดีไลน์ : @udair
เพจ : ล้างแอร์อุดรธานี ติดตั้งแอร์ ย้ายแอร์ โดยช่างนัท

บริการแอร์อุดรธานี

ไวใจเราเรื่องแอร์ เรื่องใหญ่ หมดห่วงเรื่องแอร์ไม่เย็น แอร์พัง ไม่รู้ว่าจะติดตั้งแอร์แบบไหน ปรึกษาเรา นาราแอร์เซอร์วิส ยินดีให้บริการเเละให้คำปรึกษาอย่างดี เราคำนึงถึงความปลอดภัยของแอร์ลูกค้า ไม่เสี่ยงเกิดความเสียหาย เพราะเรามีช่างชำนาญการเป็นพิเศษ

บริการติดตั้งแอร์

รับติดตั้งแอร์ โซนตัวเมืองจังหวัดอุดรธานี โดยช่างแอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี ให้บริการราคาเป็นกันเอง มีบริการรับประกันหลังการขาย พร้อมให้คำปรึกษา เเนะนำ เลือกแอร์ที่เหม่ะสมกับห้องลูกค้า หากมีปัญหาการใช้งานสามารถเรียกใช้ได้ทันที 081-520-2530

ติดต่อบริการ

บริการย้าย-ถอนแอร์

รับย้าย-ถอนแอร์ พร้อมติดตั้ง ประเมินหน้างานก่อนดำเนินการ ช่วยให้ประเมินค่าใช้จ่ายได้อย่างครอบคลุม ไม่บานปลาย ตรวจเช็คและเติมระดับสารทำความเย็น พร้อมทั้งมีการรับประกันหลังการติดตั้งอีกด้วย มั่นใจในบริการได้เลยครับ

ติดต่อบริการ

บริการล้างแอร์

รับล้างแอร์บ้านโดยช่างที่มีประสบการ มีบริการล้าแอร์ติดผนัง แอร์เเขวน สี่ทิศทาง และแอร์ฝังฝ้า พร้อมบริการรับประกัน 1 เดือนเต็ม  ไม่ต้องกังวล เพราะเราให้บริการด้วยความระมัดระวัง ลูดค้ามั่นใจได้เลยครับ

ติดต่อบริการ

บริการซ่อมแอร์

รับซ่อมแอร์เขตตัวเมืองอุดรธานี หากแอร์ของคุณลูกค้า เกิดความเสียหายจากการใช้งาน หมดกังวลได้เลยครับ เพราะเรา มีบริการซ่อมแอร์ วิเคราห์อาการเสียของตัวแอร์ เพื่อเช็คค่าบริการก่อนซ่อม 

ติดต่อบริการ

ทำไมจำเป็นต้องล้างแอร์

หมดกังวลปัญหาสุขภาพ 

ถ้าหากลูกค้าล้างแอร์เป็นประจำ จะสามารถหลีกเลี่ยงจากแอร์เกิดฝุ่นละออง เชื้อโรคและไรฝุ่นสะสม  ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาด้านสุขภาพ คือ โรคภูมิเเพ้ โรคทางเดินหายใจ หอบหืด หรืออาจะมีโรคอื่นๆ ตามมา 

เซฟค่าไฟให้กับบ้าน

ประเทศจะมีหน้าร้อนเป็นส่วนใหญ่ เราจึงเปิดแอร์แทบจะทั้งวัน ผลที่ตามมาคือค่าไฟที่แพง เเต่น้อยคนที่จะรู้ ตัวช่วยที่จะช่วยลดค่าไฟแม้จะเปิดแอร์ไว้ตลอด ก็คือการล้างแอร์ เพราะว่าแอร์มีสิ่งสกปรกเข้าไปสะสม จะทำให้ตัวแอร์ทำงานหนักขึ้นทุกวันๆ  และค่าไฟก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆดังนั้นการล้างแอร์จะช่วยลดค่าไฟได้เฉลี่ย 40% ต่อปีเลยทีเดียว

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอร์

เพื่อจะยืดอายยุการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพแอร์ การล้างแอร์คือส่วนช่วยเลยก็ว่าได้ ถ้าหากเราล้างแอร์เป็นประจำทำให้ตัวแอร์ไม่มีการสะสมของฝุ่น ทำให้ตัวแอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 

ช่วยลดภาวะโลกร้อน

ข้อดีของการล้างแอร์ ไม่ได้ช่วยเเค่แก้ไบปัญหาให้กับผู้คนแค่อย่างเดียว เเต่ยังช่วยลดปัญหาอย่าง ภาวะโรคร้อน อีกด้วย เพราะหากไม่ล้างแอร์ จะทำให้แอร์ทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ และปล่อยตัวก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่มากเกินไป เป็นต้นเหตุทำให้เกิด ภาวะโรคร้อน

อาการบ่งบอกบอกแอร์จะไม่ไหวแล้ว

แอร์ไม่เย็น

อาจเกิดจากฝุ่นเกาที่ไส้กรองอากาศ แผ่นกรองอากาศ และคอมเพรสเซอร์ ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดี หรือเกิดจากน้ำยาแอร์หมด รั่ว ควรเรียกช่างมืออาชีพมาเช็กเลยครับ

แอร์น้ำหยด

อาจเกิดจากแอร์มีน้ำหยด เช่น ถาดน้ำทิ้งรั่วหรือชำรุด ท่อน้ำทิ้งตัน การเดินท่อที่ไม่ได้มาตรฐาน จนเกิดน้ำเกาะออกมานอกตัวเเอร์ หรือแอร์สกปรกทำให้ช่องระบายอากกาศอุดตัน หากพบปัญหาดังกล่าวควรให้ช่างที่มีความชำนาญมาเเก้ไขครับ

แอร์ตัดบ่อย

อาจเกิดจากด้านนอกมีอุณหภูมิต้ำ ทำให้อากาศในห้องไม่ต่างกันมาก ให้เเก้ปัญหาโดยปรับอุณหภูมิที่ต่ำกว่าด้านนอก หรือเปิดเป็น โหมดพัดลมครับ หรืออาจเกิดจากเซ็นเซอร์จับอุณหภูมิเสื่อม และอาจเกิดจาก BTU ขนาดใหญ่กว่าห้อง รวมไปถึงเดิกจากแอร์มีฝุ่นมากจนเข้าไปอุดตันจนทำงานหนักขึ้น หรือหยุดทำงานชั่วขณะได้เช่นกัน

แอร์ลมไม่ออก

อาจเกิดจากแอร์ลมไม่ออกสาเหตุ เช่นมีฝุ่นที่ตัวกรองอากาศ เกิดจากใบพัดหมุนผิดทิศทาง เกิดจากใบพัดแอร์ในคอยล์ร้อนมีสิ่งสกปรก กรือเกิดจากมอเตอร์พัง เเนะนำควรหาช่างมาตรวจสอบและซ่อมแซมครับ

แอร์มีกลิ่นเหม็น

อาจเกิดจากคราบสกปรกในแอร์หรือน้ำขังถาดรองน้ำทิ้ง น้ำแอร์รั่ว หรือมีสัตว์ตัวเล็กๆ เช่น หนู แมลงสาบ เข้าไปฉี่ อึ หรือตาย แล้วส่งกลิ่นเหม็น วิธีดูเเลคือให้ทำความสะอาด คอยล์ร้อน คอยล์เย็น โดยเรียกช่างแอณืมาทำความสะอาดเพื่อจะได้ไม่ทำให้ตัวแอร์เสียหาย

แอร์เสียงดัง

อาจเกิดเสียงดังมาจาก แอร์เก่าใช้งานมานาน มีชิ้นส่วนแตกหัก การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน น้ำยาแอร์มากหรือน้อยเกินไป รวมถึงการไม่ล้างแอร์เป็นเวลานาน ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้แอร์เกิดเสียงดัง 

เลือกแอร์ให้เหมาะสมกับห้องของคุณ

เลือกประเภทของแอร์เหมาะกับห้อง

แอร์นั้นมีให้เลือกมากมายหลายแบบ แอร์ติดผนังจะกะทัดรัดเหมาะกับบ้านและคอนโด แอร์ฝังเพดานประหยัดพื้นที่เหมาะกับห้องขนาดใหญ่ แอร์แขวนเพดานคล้ายกับแบบติดผนัง แต่กระจายความเย็นได้เร็วและทั่วถึงกว่า แอร์ตั้งพื้นมีจุดเด่นในเรื่องการถอดทำความสะอาดได้ง่ายเหมาะกับห้องที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดานแบบพอดี

 

เลือกแอร์ระบบ Inverter

อยากประหยัดเรื่องค่าไฟมากขึ้น แนะนำระบบ “Inverter” เพราะการทำงานของระบบนี้ สามารถเปลี่ยนความถี่การทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้ลดลง ส่งผลให้การดูน้ำยาแอร์ลดลงอีกด้วย การดินไฟก็จะลดลงตาม เมื่อทำความเย็นถึงระดับเเล้ว ระบบจะตัดการทำงานพอดี อย่างไรก็ตามแอร์ที่มี Inverter อาจจะไม่เหมาะกับ ห้างร้านที่มีการเปิด-ปิดประตูเพื่อเข้าออกบ่อยๆ ดังนั้นแอร์ระบบ Inverter จะเหมาะสมกับบ้านพัก ที่อยู่อาศัยมากกว่า

เลือก BTU ให้เหมาะสมขนาดห้อง

การเลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง เป็นเกณฑ์ที่ใช้วัดความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศนั่นเอง ยิ่งมาก ยิ่งเย็น เพราะถ้าหากเลือก BTU ที่ไม่เหมาะสมกับห้องก็จะทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อย่างเช่น ถ้าเลือกแอร์ BTU ต่ำเกินไปก็จะทำให้แอร์ทำงานหนักเกินกำลัง หรือถ้าเลือก BTU สูงเกินไปแอร์ก็จะตัดบ่อย ทำให้ต้องเริ่มการทำงานใหม่อยู่เรื่อย ๆ

หากไม่ล้างแอร์มีผลกระทบอะไรไหม

ค่าไฟเพิ่ม

การไม่ล้างแอร์ส่งผลให้ค่าไฟสูงปกติ เพราะจะทำให้ฝุ่นเข้าไปติดในแผ่นกรองอากาศและอุปกรณ์ต่างๆ  ทำให้แผ่นกรองเกิดการอุดตัน จึงทำให้แอร์ทำงานหนัก เมื่อแอรืทำงาน สิ่งที่ตามมาคือค่าไฟนั่นเอง ดังนั้นนอกจากล้างแอร์จะลดค่าไฟเพิ่ม และยังช่วยในการประหยัดพลังงานอีกด้วย

เครื่องพังเร็ว

หากไม่ล้างแอร์จะมีฝุ่นหนาปกคลุม เมื่อฝุ่นเหล่านี้เข้าไปเกาะในส่วนต่างๆของแอร์ ก็ทำให้ระบบแอร์ทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ เครื่องทำงานหนัก ดังนั้นถ้าเรามีการล้างแอร์อยู่เสมอจะสามารถช่วยยืดอายุการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้

โรคถามหา

การไม่ล้างแอร์ส่งผลต่อสุขภาพ ถือเป็นภัยร้ายเเรงเลยก็ว่าได้เพราะมันมาพร้อมกับตัวแอร์ ที่มีฝุ่นเชื่้อโรคสะสม เเถมยังมีความชื้นเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้เกิดกลิ่เหม็น เเละถ้าหากปล่อยไว้ไม่ล้างแอร์ ก็จะเกิดการสะสมทำให้หายใจเอาเชื้อโรคเหล่านี้เข้าไปในร่างกายจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ ระบบทางเดินหายใจ วัณโรค และโรคปอดอักเสบอย่างรุนแรงที่เรียกว่าโรคลิเจียนแนร์ได้ และยิ่งส่งผลร้ายแรงต่อผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้เป็นทุนเดิม

ไม่ล้างแอร์เกิดโรคได้จริงหรือ

โรคปอดอักเสบ

โรคปอดอักเสบ เป็นโรคที่มาพร้อมกับแอร์ที่ไม่สะอาด อาการของโรคนี้ก็จะมีอาการไข้ขึ้นสูง มีอาการไอ และมีอาการหนาวสั่น ในทางวิชาการจะเรียกโรคนี้อีกชื่อหนึ่งว่า โรคคลิเจียนแนร์ ซึ่งเป็นโรคที่พบเจอในบ้านที่แอร์ไม่สะอาดนั่นเอง

โรคทางเดินหายใจ

โรคทางเดินหายใจ มาจากแอร์บ้านมี่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาด เนื่องจากร่างกาย เรานั้นมีเส้นเลือดมากมายในโพรงจมูก ทำหน้าที่ปรับอุณหภูมิจากอากาศภายนอกร่างกายให้มีความอบอุ่นก่อนเข้าสู่ร่างกาย โพรงจมูกของคนเราจะติดเชื้อโรคได้ง่าย อีกทั้งด้วยอุณหภูมิที่เย็น

โรคภูมิแพ้

โรคภูมิเเพ้เกิดจาก คนที่มีภูมิคุ้มกันที่ต่ำอยู่เเล้วยิ่งได้มาอยูสถานที่ที่มีเชื้อโรค เช่น การไม่ได้ล้างแอร์ มีฝุ่นภายในห้องมากเกินไป จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้กำเริบ

ผิวหนังอักเสบ

ผิวหนังอับเสบ เกิดจากการที่ไม่ได้ล้างแอร์ ทำให้ตัวแอร์มีเชื้อโรคสะสม ซึ่งเมื่ออากาศหมุนเวียนอยู่ในห้อง สำหรับท่านที่เคยเป็นโรคผิวหนังอยู่เเล้ว เมื่อเจอกับอากาศที่ไม่พึงประสงค์ จึงทำให้มีโอกาสทำให้เป็นผิวหนังอักเสบได้

โรคผิวแห้ง

โรคผิวเเห้ง จะเกิดขึ้นจากภายในร่างกายมีการคายน้ำออกจากร่างกายจึงทำให้เกิดผิวแห้ง หากภายในห้องมีความแห้งจนเกินไป ก็จะพบปัญหาตามมาคือ ผิวแห้งง่าย

โรคลีเจียนแนร์

โรคลีเจียนเเนร์ เป็นโรคปอดติดเชื้อชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียลีจิโอเนลลา โดยลักษณะอาการเด่นที่มักพบได้ เช่น ปวดศีรษะขั้นรุนแรง ไข้ขึ้นสูง หายใจไม่อิ่ม ปวดกล้ามเนื้อ และไอ

วิธีใช้งานแอร์ให้ประหยัดไฟ

ล้างแอร์เป็นประจำ

หากใช้แอร์เป็นประจำ ควรล้างแอร์ 6 เดือน/ครั้ง หรือดูตามความเหมาะสม หากเปิดแอร์แล้วไม่เย็น ให้ถอดแผ่นกรองอากาศออกมาล้าง 2-3 เดือน จะช่วยประหยัดค่าไฟได้

เปิดห้องเพื่อระบายอากาศ

ให้อากาศหมุนเวียนในห้องก่อนเปิดแอร์ ช่วยระบายความร้อนที่สะสมในห้องออกก่อน เมื่อเแิดแอร์จะทำให้อุณหภูมิห้องเย็นเร็วขึ้น และแอร์จะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป

ปิดห้องให้สนิท เมื่อเปิดแอร์

ก่อนที่จะเปิดแอร์ ควรตรวจสอบว่าประตู หน้าต่าง ปิดสนิทเเล้วหรือยังรวมถึงปิดม่านไม่ให้แดดส่องเข้ามาภายในห้อง แอร์จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก

 เปิดแอร์ 27 องศา คู่กับพัดลม

การเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่สูงขึ้น ก็จะทำให้แอร์กินไฟน้อยลงตามไปด้วย การเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส ก็เพียงพอที่จะทำให้รู้สึกสบายตัว และเมื่อเปิดพัดลมเป่ามาที่ตัว จะยิ่งทำให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นไปอีก เพราะการเปิดพัดลม ช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศภายในห้องได้ อุณหภูมิในห้องจะลดลงประมาณ 2 องศาเลยทีเดียว

งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน 

การทำงานของแอร์ จะใช้พลังงานในการทำให้ห้องเย็นลง และใช้พลังงานกำจัดความชื้นในห้อง ทำให้อากาศแห้งลง หากในห้องมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น รีดผ้าในห้องแอร์ และทำให้ภายในห้องมีความชื้น เช่น ตากผ้าในห้องแอร์ เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ในห้องแอร์ แอร์จะทำงานหนักขึ้น

ตั้งเวลาปิดแอร์ ก่อนเลิกใช้งาน 60 นาที

เมื่อเราปิดแอร์ ความเย็นจะยังอยู่ภายในห้องนั้นประมาณ 30 – 60 นาที และหากเปิดพัดลมเบา ๆ ไปด้วย จะช่วยกระจายความเย็นระหว่างที่แอร์ปิดไปแล้วได้อยู่ ดังนั้น หากตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้าเอาไว้ เช่น ปิดแอร์ก่อนตื่นนอน 60 นาที จะช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกวิธี

เปลี่ยนแอร์ใหม่

หากใช้แอร์เครื่องเดิมมาเป็นเวลานาน ประมาณ 10 – 15 ปีขึ้นไป แล้วคิดว่าแอร์ที่ใช้ยังดูดี ทำงานได้ ให้ความเย็นอยู่ จึงยังไม่เปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่ระบบภายในของแอร์ก็เสื่อมไปตามการใช้งานอยู่ดี ซึ่งอาจทำให้เปลืองค่าไฟได้ เพราะแอร์เก่าต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากกว่าปกติ แนะนำให้เลือกซื้อแอร์เครื่องใหม่จะดีกว่า

เลือกค่า BTU แอร์ ให้เหมาะกับห้อง

บางคนอาจมีความเข้าใจผิดว่า ยิ่งค่า BTU สูง ยิ่งดี ยิ่งทำให้ห้องเย็น แต่หากสูงเกินความจำเป็น จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย และหากต่ำเกินไป จะทำให้แอร์ทำงานหนักและกินไฟขึ้น จึงควรเลือกค่า BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง ควรเป็นรุ่นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 

 ติดตั้งคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสม

เนื่องจากคอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นตัวระบายความร้อน ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้ง จึงควรเป็นพื้นที่อากาศถ่ายเท เป็นที่ร่ม ไม่โดนแดดโดนฝนโดยตรง ไม่ควรติดตั้งบริเวณดาดฟ้า และพื้นปูน แนะนำให้ติดตั้งยกสูงเหนือพื้น อากาศจากคอมเพรสเซอร์จะได้ถ่ายเทได้ดี 

ดูเเลแอร์ด้วยตัวคุณเอง

หมั่นถอดล้างแผ่นกรองอากาศ

แผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์แอร์ เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่คอยทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองในอากาศไม่ให้เข้าไปถึงคอยล์เย็น หากไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะเกิดการสะสมอุดตันของฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักและไม่เย็นเท่าที่ควร หรืออาจทำให้มีน้ำแข็งเกาะที่คอยล์เย็น และมีน้ำหยดจากตัวเครื่อง

ทำความสะอาดแผงคอยล์เย็น

แผงคอยล์เย็น มีลักษณะเป็นท่อที่ขดไปมาตามความยาวของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งจะถูกห่อหุ้มไว้ด้วยแผ่นครีบอะลูมิเนียมบางๆ เป็นซี่ถี่ ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างความเย็น โดยภายในจะมีสารทำความเย็นไหลเวียนอยู่ ทำงานร่วมกับพัดลมในการรับและส่งลมเย็นเข้าสู่ห้อง

 

กำจัดฝุ่นใบพัดลมคอยล์เย็น

ใบพัดลมคอยล์เย็นหรือ โบลเวอร์ คือบริเวณที่มีลมเย็นออกมา มีลักษณะเป็นช่องๆ เรียงตัวตามแนวยาว ทำหน้าที่ช่วยให้เกิดการไหลเวียนของลม บริเวณนี้มักจะมีฝุ่นผงมาเกาะตัว ส่งผลให้ร่องดักลมของใบพัดอุดตัน ส่งลมเย็นออกไปได้น้อยลง ทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้นในการทำความเย็น และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เครื่องปรับอากาศกินไฟมากขึ้น นอกจากนี้ฝุ่นหนาที่จับตัวอาจทำให้ใบพัดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและเสียสมดุลจนเกิดเสียงดังขณะเครื่องทำงานได้

 ล้างและตรวจสอบท่อน้ำทิ้ง

นอกจากแผงคอยล์เย็นและใบพัดลมคอยล์เย็น ถาดรองรับน้ำและท่อน้ำทิ้งก็เป็นอีกส่วนที่ควรได้รับการดูแลไปพร้อมกัน เพราะเป็นบริเวณที่น้ำที่เกิดจากการกลั่นตัวของไอน้ำไหลไปรวมกัน ซึ่งนานวันอาจเกิดเป็นเมือกและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านได้

ทำความสะอาดบริเวณโครงเครื่อง 

ตัวเครื่องปรับอากาศบริเวณที่เป็นโครงสร้างหรือพื้นผิวภายนอกนั้นควรมีการทำความสะอาดหรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดถูเป็นประจำ หรือจะถอดออกมาล้างก็ได้

 ดูแลชุดคอยล์ร้อนอย่าให้มีสิ่งกีดขวาง

ไม่ใช่แค่ชุดคอยล์เย็นเท่านั้นที่ต้องหมั่นดูแล ชุดคอยล์ร้อนที่อยู่บริเวณนอกบ้านเป็นอีกส่วนที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน เพราะฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ อาจเข้าไปอุดตันหรือขัดขวางช่องทางระบายลมร้อนและส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้เย็นน้อยลงหรือกินไฟมากกว่าปกติ

เปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศเป็นระยะ

แม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวที่อากาศไม่ร้อนหรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน ก็ควรคอยเปิดใช้งานเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเครื่องยังทำงานเป็นปกติ และเพื่อป้องกันแมลงหรือสัตว์เล็กเข้าไปทำรัง ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของเครื่องและนำมาซึ่งกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

ลดภาระของเครื่องปรับอากาศให้มากที่สุด

ระหว่างเปิดใช้งานควรตรวจสอบหน้าต่างและประตูให้ปิดสนิท และไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อนซึ่งจะส่งผลให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิห้อง เช่น ไมเครเวฟ เตาอบ หม้อหุงข้าว เป็นต้น

ตรวจสอบโหมดการตั้งค่าของรีโมท

การตั้งค่าโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับอากาศและการใช้งานมีส่วนช่วยถนอมการใช้งานเครื่องปรับอากาศและช่วยประหยัดค่าไฟได้ อาจตั้งโหมดประหยัดพลังงานหรือตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติในทุกๆ วัน เพื่อจำกัดช่วงเวลาในการใช้ นอกจากนี้ควรตรวจสอบการทำงานของรีโมทโดยสังเกตจากหน้าจอแสดงผล และควรเก็บให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อป้องกันการตั้งค่าที่คลาดเคลื่อน หรือหากไม่ได้ใช้รีโมทเป็นเวลานานก็ควรถอดถ่านออก

ทริคสูตรคำนวณค่าไฟ

ค่าไฟเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทุกบ้านให้ความสำคัญ และการประหยัดค่าไฟก็เรียกได้ว่าเป็นหมุดหมายของหลายๆ ครอบครัวเลยทีเดียว แต่การจะประหยัดค่าไฟให้ตรงจุดนั้น ควรจะต้องรู้จักวิธีการคิดค่าไฟฟ้าให้ถูกต้องเสียก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าควรลดการใช้ไฟฟ้าตรงจุดไหนให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากที่สุด

 หน่วยไฟฟ้า หรือ ยูนิต คือ

ก่อนที่เราจะไปเริ่มคำนวณค่าไฟฟ้ากัน สิ่งแรกที่ทุกคนควรจะรู้คือ ค่าไฟฟ้าที่เราจ่ายกันอยู่ทุกเดือนนี้ เป็นราคาที่ถูกคิดต่อ หน่วยไฟฟ้า หรือ ยูนิต (Unit) โดย 1 ยูนิต หรือ 1 หน่วย จะเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าในปริมาณ 1 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 1,000 วัตต์ (W) ต่อ 1 ชั่วโมงนั่นเอง

วิธีคิดค่าไฟฟ้าพื้นฐาน

โดยปกติแล้วการคิดค่าไฟฟ้านั้นจะคิดตามจำนวนหน่วยหรือยูนิตที่ครัวเรือนนั้นใช้ไป โดยการจำนวนหน่วยไฟฟ้านี้ก็มีพื้นฐานมาจากการคำนวณกำลังไฟฟ้า (วัตต์) และระยะเวลาที่ใช้ไฟฟ้า (ชั่วโมง) ดังนั้นแล้วก่อนจะคำนวณค่าไฟ เราจะต้องสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นภายในบ้านก่อน ว่ามีกำลังไฟฟ้ากี่วัตต์ และเรามักจะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้นเป็นเวลากี่ชั่วโมง

เมื่อสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วก็เอาตัวเลขที่ได้มาใส่ลงในสูตรเพื่อหาจำนวนหน่วย (ยูนิต) ดังนี้

“(กำลังไฟฟ้า (วัตต์ ) ÷ 1000) x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 เดือน = จำนวนหน่วย (ยูนิต)”

และเมื่อเราได้จำนวนหน่วยหรือยูนิตมาแล้วก็สามารถนำไปเทียบราคาตามอัตราค่าไฟของการไฟฟ้านครหลวง (สำหรับที่อยู่ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (สำหรับจังหวัดอื่นๆ ) ได้ดังนี้

“จำนวนหน่วย (ยูนิต) x อัตราค่าไฟต่อหน่วย = ค่าไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ใน 1 เดือน”

วิธีคิดค่าไฟสำหรับเครื่องปรับอากาศ

การคิดค่าไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศนั้นจะแตกต่างจากการคิดค่าไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นอยู่เล็กน้อยเนื่องจากแอร์หรือเครื่องปรับอากาศมีการคิดกำลังไฟฟ้าเป็น BTU และมีตัวแปรอย่าง ค่า SEER หรือค่าประสิทธิภาพตามฤดูกาล อยู่ด้วย ดังนั้นสูตรการคำนวณค่าไฟของเครื่องปรับอากาศจึงเป็น

“(ค่าBTU ÷ ค่า SEER) ÷ 1000) x ชั่วโมงการใช้งาน) x ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย = ค่าไฟฟ้า (แอร์)”

ตัวอย่างการคำนวณค่าไฟของเครื่องปรับอากาศแคเรียร์ XInverter Plus (รุ่น 2TVAB018-W-I) ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการการันตีถึงความประหยัดไฟขั้นสุดด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 3 ดาว โดยสามารถคำนวณค่าไฟต่อเดือนของเครื่องปรับอากาศได้ตามสูตร ดังนี้

ขนาดแอร์ 18,000 BTU ÷ ค่า SEER 22.50 ÷ 1000 x 8 ชั่วโมงต่อวัน x 30 วัน x ค่าไฟฟ้า 3.46 บาท/หน่วย จะได้ค่าไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศแคเรียร์ XInverter Plus ต่อเดือนอยู่ที่ 664.32 บาท เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเครื่องปรับอากาศ Fixed Speed รุ่นอื่น ๆ ที่มีค่าไฟต่อปีอยู่ประมาณ 15,486 บาท แต่ในขณะที่ค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศแคเรียร์ XInverter Plus (รุ่น 2TVAB018-W-I) จะอยู่ที่ 7,921 บาทต่อปีเท่านั้น จึงทำให้ประหยัดค่าไฟมากกว่าถึง 7,565 บาท/ปีนั่นเอง*

บทความเกี่ยวกับ แอร์อุดรธานี

ฉลากประหยัดไฟเบอร์5คือ ?

การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องใช้การตัดสินใจ เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายและข้อมูลที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น  วันนี้ นาราแอร์เซอร์วิส จะพามาพูดถึง ฉลากประหยัดไฟเบอร์5คือ..

อาการบ่งบอกว่าควรเปลี่ยนแอร์

หลายคนใช้แอร์มานาน เป็นสิบ ๆ ปี บางคนใช้ไม่ถึงสิบปี เเต่หากใช้งานหนัก ก็จะมีอายุการใช้งานที่น้อยลงกว่าปกติ เเต่จะรู้ได้ยังไงว่าแอร์เริ่มไม่ไหวเเล้ว วันนี้ นาราแอร์เซอร์วิส อาการบ่งบอกว่าควรเปลี่ยนแอร์ ตามมาเช็คกันได้เลยครับ

ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งแอร์

ติดตั้งเครื่องแอร์ทั้งทีใช่ว่าจะติดตรงไหนก็ได้ เเต่เราต้องคำนึงถึงทิศทาง องศา ตำแหน่งในการติดตั้งที่เหมาะสม เพราะหากติดไม่ดี ก็อาจจะทำให้พื้นที่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป หรืออาจจะทำให้ค่าไฟเเพงมากขึ้น ดีไม่ดีอาจทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงอาจจะนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ วันนี้ นาราแอร์เซอร์วิส จะมาเเนะนำ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งแอร์ เพื่อให้แอร์ของคุณเย็นฉ่ำอย่างเต็มประสิทธิภาพ..

พฤติกรรมที่ทำให้แอร์พังเร็ว

แอร์เป็นสิ่งที่มีประจำบ้านก็ว่าได้ การที่จะซื้อแอร์จึงเป็นเรื่องใหญ่ และถือเป็นการลงทุนระยะยาว เพราะพอติดตั้งเเล้วต้องอยู่กับเราอีกหลายปี ถึงอย่างนั้นยังมีเรื่องที่อาจจะทำให้แอร์พังเร็วได้ นาราแอร์เซอร์วิส จึงจะมาบอก พฤติกรรมที่ทำให้แอร์พังเร็ว มาฝากครับ

แอร์ที่ใช้กันทั่วไปมีอะไรบ้าง

เครื่องปรับอากาศทั่วไปที่ใช้ตามบ้านพักอาศัย และอาคารสำนักงานขนาดเล็ก ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดแบ่งได้เป็น 6 ประเภทใหญ่ๆดังนี้

 ระบบ inverter ดียังไง

ระบบอินเวอร์ตเตอร์ คือ ระบบที่ควบคุมการทำงานของระบบเครื่องปรับอากาศจากไมโครคอมพิวเตอร์ ให้ทำงาน ปรับอุณหภูมิ ควบคุมความชื้น ควบคุมความเย็น ให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติ

การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ

สำหรับการ ดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ  มีทั้งแบบทำเองได้และทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ และควรทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

แอร์มีกลิ่นไม่พึงประสงค์

เปิดแอร์อยู่ดี ๆ ก็มีกลิ่นแปลก ๆ ออกมาไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหม็น กลิ่นอับ แอร์มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เหล่านี้สร้างความรำคาญแลพกวนใจเป็นอย่างมาก เเต่มันไม่ได้มีเเค่นั้น มันอาจมาพร้อมกับ เชื้อราแอร์ เป็นต้นต่อของโรคระบบทางหายใจ และอื่น ๆ ..